อำนาจเจริญ (Amnat Charoen)
เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีพื้นที่ประมาณ 3,161 ตารางกิโลเมตร เริ่มก่อตั้งเมืองในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ อำนาจเจริญเคยเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี จนเมื่อ พ.ศ. 2536 ได้มีประกาศจัดตั้งจังหวัดใหม่ขึ้น เป็นจังหวัดอำนาจเจริญ

อำนาจเจริญแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ แต่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งวัดวาอาราม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่งดงาม สวนผลไม้ แก่งหินในแม่น้ำโขงในช่วงฤดูแล้ว และสินค้าหัตถกรรมจากฝีมือชาวบ้าน อาทิเช่น ผ้าไหม เป็นต้น

นครราชสีมา (Nakhon Ratchasima)
จังหวัดนครราชสีมา หรือที่เรียกกันว่า "โคราช" เป็นจังหวัดที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นเมืองใหญ่บนดินแดนที่ราบสูงของภาคอีสาน สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในโคราชเป็นแหล่งอารยธรรมขอมโบราณ

นอกจากนี้เป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ป่าไม้และภูเขา, น้ำตกที่ตระการตาอย่างเช่นในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อนุสาวรีย์คุณหญิงโม หรือ ท้าวสุรนารี ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์คู่บ้านคู่เมืองของชาวโคราช

นอกจากนี้โคราชยังมีชื่อเสียงในเรื่องการทอผ้าไหม ในอำเภอปักธงชัย, เครื่องปั้นดินเผา และผลิตภัณฑ์หรือหัตถกรรมพื้นบ้านจากฝีมือชาวบ้าน สามารถเลือกเป็นของซื้อ ของฝาก ได้เป็นอย่างดี

บุรีรัมย์ (Buriram)
มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทางตอนใต้ของจังหวัดมีดินแดนแห่งอารยธรรมขอมโบราณ เป็นเมืองแห่งปราสาทหิน ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของประเทศไทย

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือ ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศไทย ถูกสร้างขึ้นด้วยหินทรายและศิลาแลงต่อเนื่องกันมาหลายสมัยตั้งแต่พุทธศตวรรษ 10 - 13 เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู มีสัญลักษณ์ที่มาจากเขาไกรลาส ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่ประทับของเทพเจ้าสูงสุด ในรอบ 1 ปีนักท่องเที่ยวสามารถชมปรากฏการณ์มหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรม ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกตรง 15 ช่องประตูของปราสาทจำนวน 4 ครั้งด้วยกัน

สุรินทร์ (Surin)
สุรินทร์มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเป็นความภูมิใจที่สำคัญที่สุด คือ "ช้าง" เพราะช้างเป็นสัตว์ที่ทั้งฉลาดและมีลูกเล่นต่างๆ ที่ทำให้คนประทับใจมากมาย คนสุรินทร์เลี้ยงช้างและถือให้เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัว จึงทำให้มีวิถีชีวิตความผูกพันระหว่างคนกับช้าง ซึ่งแตกต่างจากการเลี้ยงช้างในจังหวัดอื่น ๆ นอกจากนี้สุรินทร์ยังมี ผ้าไหมที่สวยงาม และ ข้าวหอมมะลิ ที่ดีที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย

หากคุณต้องการที่จะเห็นช้างจำนวนมาก (ซึ่งมีมากกว่าประเทศอินเดีย)ท่านสามารถหาโอกาสเหมาะไปท่องเที่ยวที่ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 457 กิโลเมตรเท่านั้น

ศรีสะเกษ (Si Sa Ket)
เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เป็นเมืองที่เงียบสงบ และเป็นชุมชนที่มีอารยธรรมรุ่งเรืองมานับพันปีตั้งแต่สมัยขอมโบราณ สถานที่ที่เป็นรู้จักและมีชื่อเสียงของจังหวัด เป็นโบราณสถานอันเก่าแก่คือ ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่ และ ปราสาทวัดสระกำแพงน้อย โดยเมื่อย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่ 10 ดังที่กล่าวกันว่าเป็นที่ตั้งของอารายธรรมขอมโบราณ แต่แท้จริงแล้วมาจากกัมพูชา

เช่นเดียวกับเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นเทวสถานที่มีความมหัศจรรย์และงดงามมาก และเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศกัมพูชา ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ซึ่งถูกสร้างขึ้นมากว่า 10 ศตวรรษมาแล้ว ประกอบด้วยปราสาท 4 ชั้น แต่ละชั้นตั้งอยู่บนแนวเขาที่เป็นเนินสูงลดหลั่นกันขึ้นไปตามลำดับ เป็นรูปแบบการสร้างที่แปลก มีบันไดทางขึ้นสูงถึงยอดเขาหลายทาง และมีความซับซ้อนในออกแบบของโครงสร้าง ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรักในเขตประเทศกัมพูชาบริเวณที่ติดกับผามออีแดงของประเทศไทย โดยตัวปราสาทหันหน้ามายังด้านที่ติดกับประเทศไทย ดังนั้นการเข้าชมปราสาทในทางบกจึงต้องใช้เส้นทางที่ผ่านผามออีแดงของประเทศไทยเท่านั้น ปัจจุบันศาลโลกได้มีการพิพากษาให้เปลี่ยนไปอยู่ภายใต้การปกครองดูแลของประเทศกัมพูชาแทน

อุบลราชธานี (Ubon Ratchathani)
มีสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมี ร้านผ้าไหมขึ้นชื่อ เป็นต้น

อุบลราชธานีเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องประเพณีของชาวพุทธ โดยเฉพาะการการปฏิบัติธรรมในป่า นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมพื้นบ้าน อย่างเช่น อาหารพื้นเมือง สินค้าหัตถกรรม ผ้าไหมแพรวา หรือผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้าย เครื่องจักรสาน และงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเทศกาลที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งชาวอุบลจัดขึ้นทุกเดือนกรกฎาคมของทุกปี

ยโสธร (Yasothon)
ยโสธรเป็นจังหวัดที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงเกี่ยวกับ ประเพณีบุญบั้งไฟ (Rocket Festival) ซึ่งเป็นเทศกาลจัดขึ้นทุกเดือนพฤษภาคมของทุกปี โดยจะมีการทำจรวดยักษ์เพื่อทำการแข่งขันประกวด และถือว่าเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญในเรื่องของการขอฝน เพื่อให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ไม่ให้เกิดความแห้งแล้ง

ในตัวเมืองยโสธรยังสิ่งที่น่าสนใจอีกนั่นก็คือ วัดมหาธาตุ ซึ่งมีพระธาตุยโสธร หรือพระธาตุอานนท์ ตั้งอยู่หน้าอุโบสถ เป็นพระธาตุเก่าเก่าที่สำคัญองค์หนึ่งในภาคอีสาน ภายในพระธาตุบรรจุอัฐิธาตุของพระอานนท์ เป็นโบราณสถานที่ตั้งขึ้นมามากกว่า 1,200 ปีแล้ว

และพระธาตุก่องข้าวน้อย เป็นเจดีย์เก่าสมัยขอม พระธาตุก่องข้าวน้อยเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงแปลกไปจากเจดีย์โดยทั่วไป คือมีลักษณะเป็นก่องข้าว ตั้งอยู่ในทุ่งนา ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 9 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีแหล่งหัตกรรมอย่าง บ้านศรีฐาน นับว่าเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเรื่องของอุตสาหากรรมครัวเรือน

ร้อยเอ็ด (Roi Et)
เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเมืองแห่งบึงพลาญชัย เป็นบึงขนาดใหญ่กว่า 50 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองร้อยเอ็ด นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็กๆ อยู่กลางบึงพลาญชัยอีกด้วย

และที่จะพลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองร้อยเอ็ด คือ การไปนมัสการพระยืนองค์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่วัดบูรพาภิราม ซึ่งมีความสูงถึง 68 เมตร เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชม

ห่างจากตัวเมืองไปอีกประมาณ 60 กิโลเมตร จะมีโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัด หรือที่เรียกกันว่า กู่กาสิงห์ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นปราสาทหินแบบขอม

นอกจากนี้ศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านก็นับว่าเป็นสินค้าหลักของจังหวัดร้อยเอ็ดแห่งนี้ โดยเฉพาะ แคน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่ทำจากไม้และแฝก ศูนย์นี้ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านศรีแก้ว ส่วนย่านถนนผดุงพานิชก็เป็นแหล่งหนึ่งในการเลือกซื้อผ้าไหมและผ้าฝ้ายชั้นดีมากมาย

มหาสารคาม (Maha Sarakham)
เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม้จะเป็นจังหวัดขนาดเล็ก แต่ก็ถือเป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษาของภาคอีสาน เนื่องจากมีสถานศึกษาอยู่มากมายหลายแห่ง จึงได้ชื่อว่าเป็น “ตักศิลาแห่งอีสาน” (ตักศิลาเป็นเมืองที่มีสถานศึกษาอยู่มากมายทุกสาขาในสมัยอินเดียโบราณ)

อีกยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และแหล่งประวัติศาสตร์มากมาย ที่ถือว่าเป็นโบราณคดีที่สำคัญและยาวนานนับหลายพันปี เช่น เมืองนครจำปาศรี ซึ่งมีลักษณะรูปแบบเป็นของศิลปะในสมัยทวารวดี

นอกจากนี้เมืองมหาสารคามยังเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมและผ้าฝายที่สวยงามอีกด้วย โดยจังหวัดมหาสารคามอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เป็นระยะทางประมาณ 470 กิโลเมตร

ขอนแก่น (Khon Kaen)
จังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของภาคอีสาน

สถานที่ที่น่าสนใจในจังหวัดขอนแก่น มีด้วยกันหลายแห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ได้จัดแสดงเกี่ยวกับพวกศิลปวัตถุสมัยทวารวดี และงานประติมากรรม พวกเครื่องมือโลหะสำริดจากบ้านเชียง มีบึงแก่นนคร ซึ่งเป็นบึงขนาดใหญ่กลางใจของเมือง มีความร่มรื่น เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาปิกนิกหรือพักผ่อนหย่อนใจกันมาก บริเวณใกล้กับบึงแก่นนคร เป็นที่ตั้งของ วัดธาตุ ซึ่งถือเป็นวัดประจำตระกูลของเมืองขอนแก่น

นอกจากนี้จังหวัดขอนแก่นยังเป็นแหล่งค้นพบซากดึกดำบรรพ์นับล้านปีอย่างไดโนเสาร์ ซึ่งได้มีการขุดค้นพบและจัดแสดงสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าเยี่ยมชม ซึ่งตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง ไม่เพียงแค่นั้นยังมีสวนรุกขชาติ น้ำตก และสัตว์ป่าอีกมากมายอีกด้วย

ชัยภูมิ (Chaiyaphum)
จังหวัดชัยภูมิเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกกระเจียวแสนงาม เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่ามากที่สุดจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน ชัยภูมิก่อตั้งมากว่า 2 ศตวรรษที่ผ่านมาในช่วงสมัยต้นรัตนโกสินทร์ โดยชาวเวียงจันทร์

ในตัวจังหวัดมีอุทยานแห่งชาติด้วยกัน 4 แห่ง ได้แก่
1. อุทยานแห่งชาติตาดโตน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัด ประกอบไปด้วยลานหินที่กว้างใหญ่และสวยงาม
2. อุทยานแห่งชาติไทรทอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีน้ำตกไทรทองที่มีความสวยงาม บางเขตจะมี ดอกปทุมมา หรือ สยามทิวลิป ให้นักทักท่องเที่ยวได้ชื่นชมอีกด้วย
3. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีแต่หินรูปร่างแปลกแตกต่างกัน ซึ่งเรียกว่า ลานหินงาม มองดูสวยงามเป็นที่น่าอัศจรรย์
4. อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมประมาณ 200 ตารางกิโลเมตร เป็นภูเขาและป่าซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของชัยภูมิ

กาฬสินธุ์ (Kalasin)
กาฬสินธุ์เป็นจังหวัดที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องของเครื่องดนตรีโปงลาง และมีชื่อเสียงเรื่องการทอผ้าไหมไทยที่มีความงดงามที่สุด หรือเรียกได้ว่าเป็น "ราชินีแห่งผ้าไหม"

จังหวัดกาฬสินธุ์อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เป็นระยะทางประมาณ 519 กิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศทางตอนบนถูกปกคลุมไปด้วยแนวเทือกเขา มีเขื่อนลำปาวที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2506 - 2511 สามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอุทกภัยและเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่ในจังหวัดจะเป็นพื้นที่เกษตรกรรม เป็นแหล่งผลิตข้าวและพืชพันธุ์ที่สำคัญทางเศรษฐกิจ อย่างเช่น มันสำปะลัง และ อ้อย เป็นต้น

ล่าสุดได้มีการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ ที่ภูกุ้มข้าว ซึ่งนับเป็นหลุมขุดค้นที่มีซากไดโนเสาร์รวมกันมากที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย มีการสันนิษฐานว่ามีอายุมากว่า 120 ล้านปี

มุกดาหาร (Mukdahan)
เป็นจังหวัดที่มีความเงียบสงบ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับเขตสะหวันนะเขต ในประเทศลาว ในจังหวัดมุกดาหารมีความลงตัวที่น่าสนใจของวัฒนธรรมจากชนเผ่าต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังเป็นดินแดนที่มีความมหัศจรรย์ของสวนหินธรรมชาติที่มีลักษณะแปลกตา ที่เรียกว่า ภูผาเทิบ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นอีกมากมายรอให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม

มุกดาหารมีความสวยงามของวิวทิวทัศน์จากแม่น้ำโขง และยังเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ ไทย-ลาว ซึ่งมีตลาดอินโดจีนที่จะเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มคนไทย เป็นแหล่งช้อปปิ้งกลางใจเมืองมุกดาหาร เป็นศูนย์รวมสินค้าเครื่องใช้ทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ ในบริเวณนั้นมีวัดศรีมงคล ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงในตัวเมือง ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระเจ้าองค์หลวง พระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมุกดาหาร

สกลนคร (Sakon Nakhon)
อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เป็นระยะทางประมาณ 647 กิโลเมตร อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย จังหวัดสกลนครยังได้รับการขนานนามว่าเป็น"แอ่งธรรมะแห่งอีสาน" มีวัดวาอารามเก่าแก่อยู่มากมาย แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาที่มีมาตั้งแต่อดีตกาล

ภูผายล เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด มีจุดชมวิวที่สวยงาม บริเวณหน้าผามีรูปหินแกะสลักเป็นรูปภาพต่าง ๆ แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมของคนโบราณที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี และนอกจากนี้ที่นี่ยังเคยเป็นถิ่นที่อยู่ของกลุ่มคนก่อนประวัติศาสตร์อีกด้วย

ในช่วงเดือนตุลาคม ชาวภูไทที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนี้ ได้มีการจัดงานเทศกาล ที่มีชื่อว่า "งานประเพณีออกพรรษาแห่ปราสาทผึ้ง" โดยจะมีการสวมชุดในสมัยก่อน มีการจัดทำปราสาทผึ้งทอดถวายวัดเพื่อเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันออกพรรษา โดยมีความเชื่อกันว่าเป็นการทำบุญ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ได้ล่วงลับไปแล้ว สามารถไปเกิดในภพหน้าได้ เป็นประเพณีที่แสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดสกลนคร

หนองคาย (Nong Khai)
หนองคายมีพื้นที่ส่วนใหญ่ติดกับแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับประเทศลาว สมัยก่อนการเดินทางไปยังประเทศลาวต้องไปทางเรือจากท่าสะเด็ด แต่ปัจจุบันได้มีการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เชื่อมระหว่างสองประเทศ เพื่อให้สามารถเดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศลาวได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น จึงทำให้จังหวัดหนองคายกลายเเป็นศูนย์กลางในการขนส่งและติดต่อค้าขายกับประเทศลาว

นอกจากนี้หนองคายยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งนั่นรวมไปถึงวัดโพธิ์ชัย เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัดหนองคาย เป็นพระอารามหลวง มีพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก มีลักษณะงดงาม ซึ่งก็คือ หลวงพ่อพระใส ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองหนองคาย สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งคือ ศาลาแก้วกู่ เป็นสวนประติมากรรมที่สวยงาม เต็มไปด้วยรูปปั้นขององค์พระศิวะ พระวิษณุ รูปปั้นเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ พระพุทธรูปปางต่างๆ และพวกตำนานพื้นบ้าน และยังมี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำโขง และบริเวณนั้นยังมีน้ำตกที่มีความสวยงามอีกด้วย

อุดรธานี (Udon Thani)
ถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการท่องเที่ยวทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 564 กิโลเมตร และยังเป็นดินแดนที่มีอารยธรรมอันเก่าแก่แห่งหนึ่ง

จังหวัดอุดรธานีเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียงของบ้านเชียง ซึ่งเป็นสถานที่อารยธรรมแรกๆ ของโลก เชื่อว่ามีความเจริญรุ่งเรืองมากว่า 5,000 ปีมาแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่หนาแน่นด้วยการทำเกษตรกรรม โดยเฉพาะมีการขายส่งและค้าปลีกนั่นคือเหตุผลว่าทำไมอุดรธานีจึงเป็นศูนย์กลางการตลาดทางเกษตร

เลย (Loei)
เลยเป็นจังหวัดที่มีความสวยงามที่สุดของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย มีพื้นที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามจากภูเขาและสายหมอก ที่นี่จะมีอากาศไม่ร้อนมากนัก และเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีอุณภูมิต่ำสุดถึง 0 องศาเซลเซียส

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน อาทิเช่น อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อุทยานแห่งชาติภูหลวง และ อุทยานแห่งชาติภูเรือ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของอำเภอท่าลี่และอำเภอเชียงคาน

นครพนม (Nakhon Phanom)
ตั้งอยู่เลียบชายฝั่งขวาของแม่น้ำโขง เป็นเมืองโบราณที่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "เมืองแห่งภูเขา" นครพนมเป็นเมืองที่มีทิวทัศน์และบรรยากาศที่งดงาม ลักษณะทั่วไปเป็น ภูเขา เนินสูง และที่ราบซึ่งปกคลุมไปด้วยป่าอันเขียวชอุ่ม

แหล่งท่องเที่ยวที่รู้จักกันในจังหวัดนี้คือ พระธาตุพนม ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุพนมวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นสถานที่ประดิษฐานองค์พระธาตุอันเก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพนม

หนองบัวลำภู (Nong Bua Lamphu)
เป็นจังหวัดที่แยกออกจากจังหวัดอุดรธานีในปี พ.ศ. 2536 หนองบัวลำภูเป็นเมืองโบราณที่มีประวัติมายาวนาน อีกทั้งยังมีซากหอยดึกดำบรรพ์ที่มีอายุถึง 140 ล้านปี นอกจากนี้ยังมีแหล่งโบราณคดีและโบราณวัตถุ ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่บ้านกุดกวางสร้อย และมีวัดถ้ำกลองเพล เป็นวัดป่าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นวัดป่าที่มีความเงียบสงบและร่มรื่นมาก ทั้งยังเป็นที่นั่งปัสสนากรรมฐานของพระอาจารย์ชื่อดังเมื่อสมัยก่อน

ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งคือ อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ มีพื้นที่ครอบคลุมประมาณ 320 ตารางกิโลเมตร รวมถึงมีทะเลสาบขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากการสร้างเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นิยมไปตกปลา

บึงกาฬ (Bueng Kan)
บึงกาฬเป็นจังหวัดใหม่ที่ได้รับการจัดตั้งในเดือนสิงหาคม 2553 โดยแยกตัวออกมาจากจังหวัดหนองคาย ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประชากรเกือบ 4 แสนคน มีอาณาเขตเรียงจากทิศใต้ ตามเข็มนาฬิกาคือจัง หวัดนครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองคาย และตั้งอยู่ตรงกับข้ามกับจังหวัดบริคาไช ของประเทศลาว โดยมีแม่น้ำโขงคั่นกลาง

นอกจากทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่สวยงามของลุ่มแม่น้ำแม่โขง จังหวัดบึงกาฬมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น น้ำตก ภูเขา ที่ราบสูง ที่ดินเพาะปลูกราบลุ่ม และที่พลาดไม่ได้คือแม่น้ำโขง ที่ซึ่งในช่วงหน้าร้อนจะมีหาดทรายริมแม่น้ำที่สวยงามเกิดขึ้น และยังมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาวอำนวย ความสะดวกในการเดินทางระหว่างสองประเทศ นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว วัฒนธรรมประเพณีของชาวอิสานยังน่าสนใจและน่าเรียนรู้อีกด้วย จังหวัดบึงกาฬมีโรงแรม, ที่พัก ทั้งในตัวเมืองและริมฝั่งแม่น้ำโขงอีกด้วย